จากกรณีนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ร้องเรียนต่อเลขาธิการ คสช. ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.ถึงกรณีปัญหาขณะฝึกงานตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น พร้อมเพื่อนรวม 4 คน ได้ถูกผู้อำนวยการฯ และเจ้าหน้าที่บางคนสั่งให้ร่วมปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ และลงลายมือชื่อแทนประชาชนในใบเสร็จรับเงิน รวมกว่า 2,000 ราย คิดเป็นยอดเงินรวมกว่า 6,900,000 บาท 

 

ล่าสุดวันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.วันนพ จินตนกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ รพ.สต.เขาน้อย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเขาน้อยถูกนำเอกสารบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ไปเบิกเงินโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน หรือเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้

 

พ.ต.ท.วันนพ จินตนกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า จากการสอบปากคำซักถามชาวบ้านที่มีรายชื่อในเอกสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็น อสม. ต่างยืนยันว่าไม่ได้รับเงินตามโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าได้ให้เอกสารสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านแก่เจ้าหน้าที่ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่นจริง 

 

โดยเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ให้เหตุผลว่า เพื่อใช้ประกอบเอกสารเบิกเงินค่าดูแลผู้ป่วยเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 6 เดือน  ต่อมา พ.ต.ท.วันนพ พร้อมคณะได้เดินทางไปยังบ้านเขื่อน หมู่ที่ 3 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เพื่อสืบค้นสอบถามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านกลุ่มอาชีพประดิษฐ์วัสดุจากผ้า มีสมาชิกอยู่จำนวน 30 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านอีกหนึ่งกลุ่มที่อ้างว่าถูกศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ทุจริตเงินสนับสนุน โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้ให้สมาชิกกลุ่มฯ แต่ละคนเล่าเรื่องราวเป็นรายบุคคลเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเตรียมเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

นางโสภา จอมคำสิงห์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 บ้านเหล่า หมู่ 3 ต.บ้านเหล่า หนึ่งใน สมาชิกกลุ่มอาชีพประดิษฐ์วัสดุจากผ้า เล่าว่า ในวันที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นนำเงินมามอบให้ยอมรับว่าดีใจมากที่หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญต่อชาวบ้าน ด้วยการสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ในการพัฒนาอาชีพในชุมชน ซึ่งตนก็เข้าใจมาโดยตลอดว่าการดำเนินการของหน่วยงานที่นำเงินมามอบให้เป็นไปด้วยความสุจริตและโปร่งใส   

 

กระทั่งมาทราบในภายหลัง หลังจากที่มีการร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นทุจริตด้วยการปลอมแปลงเองสาร และเงินสนับสนุนที่ทางศูนย์คุ้มครองฯ นำมามอบให้นั้นไม่เต็มจำนวนตามที่เอกสารการเบิกจ่ายที่จะได้รับจริง คือ จำนวน 90,000 บาท แต่ทางกลุ่มกลับได้รับมาเพียง 30,000 บาทเท่านั้น 

ส่วนเงินที่เหลืออีก 60,000 บาทไม่ทราบว่าทางศูนย์คุ้มครองฯ นำไปใช้อย่างไรต่อ ซึ่งตนมองว่าหากเงินจำนวนดังกล่าวถูกจัดสรรมายังกลุ่มอาชีพตามความเป็นจริง ป่านนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของสมาชิกจะสามารถพัฒนาและต่อยอดไปได้มากกว่านี้ 

 

อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบและเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตอย่างถึงที่สุด  “จากการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารมีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น มีมูลกระทำความผิด แต่จะต้องรวบรวมพยานบุคคล พยานเอกสาร รวมทั้งการตรวจพิสูจน์เอกสารอย่างละเอียดรอบคอบ คาดว่าจะนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย” พ.ต.ท.วันนพกล่าว

 

 

 โดย: MGR Online